วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา



วัดโสธรวรารามวรวิหาร





  วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกงเดิมชื่อว่า "วัดหงษ์" สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพุทธโสธร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทราเป็นพระพุทธรูป ปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48เมตร ฝีมือช่างล้านช้างตามประวัติเล่าว่าได้ปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ แต่เดิมเป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ รูปทรง วยงามมาก แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะที่เห็น ในปัจจุบัน ทุกวันจะมีผู้คนมานมัสการปิดทองหลวงพ่อพุทธโสธรจำนวนมากเนื่องจากอุโบสถหลังเก่ามีสภาพ ทรุดโทรมและคับแคบ ทางคณะกรรมการวัดจึงได้มีมติให้รื้อพระอุโบสถหลังเก่าและสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ โดยมีสำนักงานโยธาจังหวัดเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างเป็นอาคารทรงไทยที่ออกแบบพิเศษ เฉพาะรัชกาลลักษณะ แบบพระอุโบสถเป็นหลังคาประกอบเครื่องยอดชนิดยอดทรงมณฑปแบบไทย ต่อเชื่อมด้วยวิหารทั้งด้านหน้าและ ด้านหลังด้านข้างต่อเชื่อมด้วยอาคารรูปทรงเดียวกับพระวิหารเป็นอาคารมุขเด็จ จึงมีลักษณะเป็นอาคารมีหลังคา แบบจตุรมุขอย่างปราสาทไทย กว้าง 44.5 เมตร ยาว 123.50 เมตร ส่วนกลางพระอุโบสถมียอดมณฑปสูง 85 เมตร ยอดมณฑปมีลักษณะเป็นฉัตร 5 ชั้น มีความสูง 4.90 เมตร ยอดฉัตรเป็นทองคำน้ำหนัก 77กิโลกรัม มูลค่า 44 ล้านบาท ผนังด้านนอกพระอุโบสถปูด้วยหินอ่อนจากเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี ผนังด้านในเป็นงาน จิตรกรรมฝาผนัง โดยศิลปินแห่งชาติซึ่งเป็นผู้เขียนภาพประกอบพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก



      ส่วนสำคัญที่สุดคือ ส่วนกลางของพระอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวง พ่อพุทธโสธร ประกอบด้วยภาพ จิตรกรรมฝาผนังโดยรอบนับ ตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดานจะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์เป็น เรื่องราว ของสีทันดร มหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ดาวดึง พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาลตำแหน่งของ ดวงดาวบนเพดาน จะกำหนดตำแหน่งตามดาราศาสตร์ ตรงกับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2539 ซึ่งเป็นวันยกยอด ฉัตรทองคำเหนือมณฑป พระอุโบสถ และภาพของจักรวาลบนเพดานจะเป็นภาพเขียนประดับ โมเสกสี จึงเป็น พระอุโบสถที่มีขนาดใหญ่ และสวยงามที่สุด




วัดสมานรัตนาราม





        วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ค่ะ จากกรุงเทพฯ มาไม่ไกลเพียงแค่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง สำหรับที่วัดสมานรัตนารามนี้เป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึง 10 แห่งด้วยกันที่ผู้คนนิยมมาขอพร และทำบุญค่ะ คือ หลวงพ่อโต พระประธานในอุโบสถหลังใหม่, หลวงพ่อองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์, หลวงพ่อประทานพร, พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานบุตร, พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข, พระพิฆเนศปางปาฏิหาริย์ 108 กร, ช้างเอราวัณ, พระราหู, พระพรหม และจระเข้โหราเทพารักษ์ 




วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) 




       วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ ตำบลบ้านใหม่ ห่างจากศาลากลางจังหวัด 1 กม. เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ขยายมากจากวัดเล่งเน่ยยี่ในกรุงเทพฯ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2449 เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี เพื่อเปิดทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา ได้พระราชทานนามวัดว่า "วัดจีนประชาสโมสร" ส่วนชื่อภาษาจีนของวัด คำว่า "ฮก" แปลว่า วาสนา โชคลาภ ความมั่งมีศรีสุข "เล้ง" หรือ "เล่ง" หมายถึง มังกร จึงมีผู้เรียกวัดนี้ว่า "มังกรวาสนา หรือ มังกรแห่งโชค"




ศาลหลักเมืองฉะเชิงเทรา





ศาลหลักเมืองฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ถนนหน้าเมือง ตั้งอยู่ข้างโรงพยาบาลเมืองฉะเชิงเทรา อยู่ริมแม่น้ำบางปะกง  เป็นศาลที่สร้างขึ้นใหม่มีสถาปัตยกรรมไทย หลังคาทรงจัตุรมุข ส่วนบนเป็นยอดปรางค์ ภายในศาลมีเสาหลักเมือง 2 เสา เสาหนึ่งเป็นเสาหลักเมืองเก่า สร้างเมื่อ พ.ศ. 2377 อีกเสาหนึ่งเป็นเสาหลักเมืองปัจจุบัน สร้างเมื่อ พ.ศ.2438 นอกจากนั้นภายในบริเวณศศาลหลักเมืองฉะเชิงเทรามีศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตั้งอยู่ซึงเมีศิลปะเป็นแบบจีน ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรานั้นเป็นที่เคารพสักการะของชาวฉะเชิงเทราเป็นอย่างมาก มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นจำนวนมากในทุกๆวัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น